วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ความรู้.. รายทาง

ทางเข้า Kumeyaay Lake มองเห็นน้ำใสอยู่ข้างหน้า

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างใน Mission Trails Regional Park ซึ่งฉันติดอกติดใจก็คือแผ่นป้ายและบอร์ดต่างๆที่มีให้เห็นอยู่เป็นระยะๆตามทางเดิน ป้ายและบอร์ดเหล่านี้จะโชว์ภาพที่บอกว่าตอนนี้เรายืนอยู่ตรงไหน และที่ตรงนี้มีความสำคัญอย่างไรในประวัติศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวกับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ดั้งเดิมของชีวิตชนเผ่าชาวอินเดียนแดง เจ้าของบ้านตัวจริงของประเทศนี้ รูปวาดสวยงามช่วยบอกเล่าเรื่องราวที่ทำให้เข้าใจได้ไม่ยากเลย


บอร์ดนี้นอกจากจะบอกว่ามีนกชนิดใดให้ดูในบริเวณนี้แล้ว ยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูนกขั้นพื้นฐานด้วย

ป้ายและบอร์ดที่ฉันอยากพูดถึงในบล็อกนี้ก็แน่นอน ต้องเป็นชนิดที่มีความเกี่ยวข้องกับชื่อบล็อก Watch Me Fly ซึ่งก็คือป้ายและบอร์ดต่างๆที่เกี่ยวกับนก ฉันชอบแนวความคิดของการออกแบบสร้างบอร์ดที่แสดงภาพชนิดนก และบอร์ดแนะนำการดูนก เพราะบอร์ดเหล่านี้ถูกออกแบบให้มี ความกว้างและความสูงในขนาดที่พอดี ทำให้เด็กๆและเยาวชนไม่ต้องชะเง้อจนคอตั้ง หรือต้องให้ผู้ใหญ่อุ้มจึงจะสามารถเห็นและอ่านข้อความสำคัญบนป้ายได้


บอร์ดนี้บอกกับเราว่า เราจะสามารถเห็นนกล่าเหยื่อชนิดใดบ้างในบริเวณนี้


บอร์ดทั้งหมดสามารถเปิดปิดเปลี่ยนรูปภาพใหม่ได้ ขวามือมีกุญแจล็อกไว้ด้วยค่ะ


Least Bell's Vireo

ฉันได้พบกับแผ่นประกาศใบหนึ่ง ในภาพเป็นรูปวาดของนกสองตัว นอนคู่อยู่ในรังสานใบน้อยบนกิ่งไม้ ภาพนี้ติดอยู่บนบอร์ดตรงทางเข้าเขื่อนโบราณ ที่เรียกว่า Old Mission Dam เนื้อหาบนแผ่นประกาศที่ออกแบบสวยงามใบนี้บอกเตือนว่า ให้เคารพความเป็นส่วนตัวของนกที่กำลังทำรัง นกชนิดที่อยู่ในภาพนี้เรียกว่านก Least Bell's Vireo เป็นนกจำพวก Songbird ที่ถูกจัดให้อยู่ในนกชนิดใกล้สูญพันธุ์

ฉันได้หยิบแผ่นพับที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับนก Least Bell's Vireo มาด้วยหนึ่งใบ ในนั้นมีข้อความบอกเล่าถึงนกชนิดนี้อย่างน่าสนใจไว้ว่า รายงานในปี 1993 พบ Least Bell's Vireo มีเหลืออยู่เพียง 600 คู่ทั้งสหรัฐอเมริกา และแหล่งที่พบว่ามีประชากรนก Least Bell's Vireo มากที่สุดอยู่ในอาณาบริเวณของ Mission Trails Regional Park ซึ่งเป็นอุทยานอันกว้างใหญ่ที่ฉันกำลังยืนอยู่นี้ โดยพบว่ามีนก Least Bell's Vireo อยู่ที่นี่เกือบ 300 คู่ทีเดียว...
นก Least Bell's Vireo จะทำรังวางไข่ในช่วงระหว่างฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ในป่าใกล้แหล่งน้ำ ดังนั้น Kumeyaay Lake ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Mission Trails Regional Park จึงเป็นแหล่งทำรังสำคัญของนก โดยในช่วงฤดูทำรังวางไข่นี้ทางอุทยานได้มีการปิดกั้นรั้วตาข่ายในพื้นที่บางส่วนใกล้แหล่งน้ำบริเวณรอบทะเลสาบไว้ด้วย การปิดกั้นนี้ มีทั้งปิดชั่วคราวและปิดถาวรตลอดทั้งปี นอกจากนี้ก็ยังมีกฏห้ามส่งเสียงดัง และงดใช้เครื่องปั่นไฟสำหรับผู้ที่ไปตั้งแค็มป์ค้างแรมในบริเวณอุทยานช่วงฤดูที่นกผสมพันธุ์อีกด้วย

สาเหตุสำคัญที่ทำให้นก Least Bell's Vireo มีจำนวนลดนั้น เกิดจากการสูญเสียที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำรังวางไข่ใกล้แหล่งน้ำ ไปกับการพัฒนาและความเจริญเติบโตของเมือง รวมถึง Least Bell's Vireo ยังมีศัตรูทางธรรมชาติ คือนก Brown-headed cowbirds ที่มักแย่งรังและแย่งอาหาร จนทำให้นก Least Bell's Vireo ต้องพบกับความตาย ด้วยเหตุนี้เองในช่วงที่ Least Bell's Vireo สร้างรังวางไข่ เจ้าหน้าที่จะมีการดักจับนก Brown-headed cowbirds เอามาขังไว้ชั่วคราวก่อน แล้วจึงปล่อยกลับคืนธรรมชาติในภายหลัง

แม้นก Least Bell's Vireo จะมีจำนวนประชากรที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง แต่ด้วยความร่วมมือของทุกคนในประเทศนี้ ฉันมองเห็นอนาคตของพวกเขาอย่างมีความหวัง ไม่ช้าเขาจะบินกันอย่างงามสง่า เต็มท้องฟ้า แล้วร้องจิบๆบอกเราว่า.. Watch Me Fly !!!

วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

บ้านนกหลังน้อย

จากการได้เข้าชมงานประกวดภาพถ่าย The 2008 Amateur Photo Contest ที่จัดแสดงอยู่ในอาคาร Visitor Center ของ Mission Trails Regional Park เมื่อเดือนพฤษภาคมนั้น ช่วยให้ฉันได้รู้จักกับแหล่งดูนกอีกแห่ง หลังจากชมภาพถ่ายนกและภาพถ่ายธรรมชาติที่จัดแสดงแล้ว ฉันก็ได้มีโอกาสเดินชมวิวสวยรอบๆตัวอาคาร ฉันเดินเก็บภาพวิวจนมาถึงทางเดินเล็กๆในมุมร่มรื่น ที่ตรงนี้มีต้นไม้ใหญ่รายล้อมอยู่ทั้งสองข้างทาง แต่ที่สะดุดตาฉันคือรังนก 2 รังซึ่งมีขนาดและรูปทรงที่แตกต่างกัน ติดตั้งอยู่บนต้นเมเปิลใหญ่ที่ปลูกอยู่ทางด้านซ้ายและด้านขวามือ

รังของนก House Wren บนต้นเมเปิล

ฉันยืนเก็บภาพรังนกอยู่ห่างๆอย่างเงียบๆ ด้วยคิดว่ารังนกทั้งสองนั้นคงเป็นของประดับสวน และคงไม่มีนกตัวไหนครอบครองเป็นเจ้าของรัง กระทั่งฉันได้ยินเสียงร้องจิบๆของนกตัวเล็กๆตัวหนึ่ง ที่ในปากคาบอะไรบางอย่าง บินมาเกาะที่กิ่งไม้ใกล้ๆ แล้วก็บินมายืนที่รังมองซ้ายมองขวา ก่อนที่จะผลุบหายเข้าโพรง สักอึดใจจึงโผล่หน้าออกมา แล้วโผจากไป ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจว่ามีใครยืนอยู่แม้แต่น้อย หรือรูปทรงของฉันจะดูเหมือนหินเหมือนต้นไม้ ฉันไม่แน่ใจ ฉันยังคงยืนที่เดิมกระทั่งได้เห็นนกบินกลับมาใหม่ เขาทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง จนทำให้ฉันมั่นใจว่าพวกเขามีลูกๆอยู่ในรัง


นก House Wren

ฉันตื่นเต้น แต่ก็ยังคงนิ่งเงียบ และเก็บภาพ ส่วนชัตเตอร์ของกล้องถ่ายรูปนั้น มันได้ถูกปรับเสียงให้ไปอยู่ในระดับที่เบาที่สุดไว้ตั้งแต่แรก ที่คิดจะใช้กล้องตัวนี้สำหรับถ่ายภาพนกอยู่แล้ว นั่นเพราะฉันต้องป้องกันไม่ให้มันเป็นต้นเหตุที่จะทำให้นกตกใจ.. ฉันเก็บภาพได้ไม่มากและอยู่ตรงนั้นอีกไม่นานก่อนที่จะล่าถอยออกมาด้วยเคารพในความเป็นส่วนตัวและเพื่อให้ความรู้สึกปลอดภัยกับครอบครัวนก



เพราะอยากรู้ว่านกที่ได้เห็นเมื่อสักครู่เป็นนกชนิดใด ฉันจึงเดินกลับเข้าไปในตึก Visitor Center เพื่อหาข้อมูลของนกในรัง และพบว่าพวกเขาคือนก House Wren นอกจากนี้ฉันยังรู้อีกว่า ภายใน Mission Trails Regional Park นั้น เขามีโครงการ Nest Box Project ที่ร่วมกันทำโดยกลุ่มอาสาสมัคร พวกเขาได้ทำการติดตั้งรังนกและรังค้างคาวหลายรังไว้ทั่วพาร์ค เพื่อวัตถุประสงค์ในการเพิ่มจำนวนนกและค้างคาว

รังนกรูปร่างแบบแปลกๆนี้ เรียกว่า Peterson nestbox เป็นรังนกสำหรับนก Bluebird ค่ะ
นอกจากฉันจะได้พบรังนก 2 รังที่ Visitor Center แล้ว รังนกส่วนใหญ่ที่ฉันได้พบเพิ่มเติม จะกระจายติดตั้งอยู่ในบริเวณรอบๆ Kumeyaay Lake ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ห่างออกไป และเป็นทะเลสาบแห่งหนึ่งที่อยู่ในอาณาบริเวณของ Mission Trails Regional Park รังนกส่วนใหญ่จะติดตั้งเข้ากับลำต้นของต้นไม้ มีเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ติดตั้งบนเสา แต่รังนกทุกรังที่พบมักจะติดตั้งอยู่ใกล้ทางเดิน บึนทึกในครั้งนี้จึงขอรวบรวมรังนกเท่าที่ได้พบภายในพาร์คไว้ในที่เดียวกันนะคะ









ถูกจับจองด้วยผึ้ง

สองรัง ต่างขนาด ข้างทางเดิน
การติดตั้งรังนกบนเสาแบบนี้จะมีความปลอดภัยกับนกมากกว่าการติดตั้งรังเข้ากับต้นไม้ เพราะรังนกจะไม่มีความเสี่ยงต่อการเข้าถึงง่ายของสัตว์ล่า ที่จะปีนไต่ขึ้นต้นไม้ได้สะดวก สังเกตุที่โคนเสาจะหุ้มไว้ด้วยท่อกลมเพื่อป้องกันการปีนของสัตว์ล่าที่เป็นศัตรูของนก





รังนกรังนี้มีเจ้าของ รังติดตั้งใกล้กับทางเดินที่เป็นสะพานคอนกรีตที่อยู่เหนือลำธารเล็กๆ

ดูชัดๆอีกรูป

เจ้าของรังในรูปที่เห็นตัวชัดๆ

วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

พากล้องตัวใหม่ไปทะเลสาบ

เพียงส่วนหนึ่งของทะเลสาบ Lake Murray ถ่ายจากมุมสูง

ฉันมีความสนใจเกี่ยวกับชีวิตในธรรมชาติเป็นทุนเดิมอยู่มาก แต่ความสนใจเหล่านั้นมันก็มักจำกัดอยู่เพียงในจอทีวี กับรายการสารคดีจำพวกเนเจอร์ทั้งหลาย และช่วงก่อนหน้านั้นหากฉันจะเลือกการพักผ่อนหย่อนใจ ฉันก็จะเลือกไปศูนย์การค้ามากกว่าการเดินป่าเดินพาร์ค...


เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาฉันรู้สึกว่าฉันค่อยๆเปลี่ยนไป



นกอะไรก็ไม่รู้ ติดไว้ก่อนนะคะ
ความรู้สึกอยากจะไปเดินป่า เข้าใกล้ชิดชีวิตในธรรมชาติ มันมาอยู่กับฉันตอนไหนก็ไม่รู้ มารู้ตัวอีกที ฉันก็มีรองเท้า เสื้อผ้าสีตุ่นๆและการเกงลายทหาร ในตู้เสื้อผ้าเพื่อใช้สำหรับใส่มันในวันที่จะออกไปดูนก ตั้งหลายตัวเข้าไปแล้ว เสื้อสีตุ่นกำลังทำการปฏิวัติเบียดไล่ที่เสื้อสีสว่างสดใส ไม้แขวนเสื้อกำลังถูกช่วงชิงให้เปลี่ยนใจไปแขวนเสื้อสีตุ่น จนเสื้อสีสดจะต้องกล่าวบ๊ายบายและถูกเก็บพับไปให้พ้นทาง
ฉันมีกล้องสองตาอันเล็กๆอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดคือกล้องตัวใหม่ที่จะมาใช้แทนกล้องเพื่อนยากที่ตกรุ่นการใช้งานด้วยความโบราณของเทคโนโลยี
นกตัวเดียวกับข้างบน
ฉันใช้เวลาศึกษาและเลือกกล้องตัวใหม่อย่างพิถีพิถัน ในที่สุดมันก็ถูกส่งจากร้านค้า Online มาถึงบ้านด้วยความปลอดภัยดี Canon PowerShot SX100 IS เป็นกล้องสวยขนาดเล็กในราคาไม่เจ็บปวดเมื่อเทียบกับคุณสมบัติเพรียกพร้อมน่าใช้ แต่หัวใจสำคัญในการเลือกกล้องสำหรับฉันอยู่ที่กำลังซูมที่กล้องมีให้ถึง 10x optical zoom ซึ่งหากใช้ digital zoom ร่วมกันละก็ กล้องตัวนี้จะมีกำลังซูมได้ถึง 40x เลยทีเดียว มันจึงเหมาะมากสำหรับมือใหม่ที่อยากหัดถ่ายรูปนกอย่างฉัน

นกตัวนี้สีสวย

ฉันใช้เวลาเรียนรู้วิธีการใช้กล้องอย่างช้าๆ ด้วยการถ่ายภาพนกแถวๆบ้านอย่างสนุกอยู่หลายวัน กระทั่งวันที่ฉันนั่งเขียนบันทึกนี้ ฉันก็ยังหัดใช้งานมันได้ไม่ถึงครึ่งประสิทธิภาพตามความสามารถของกล้อง แต่ภาพที่ได้ก็ไม่ทำให้ฉันผิดหวังเลย

เมื่อถ่ายรูปนกแถวบ้านจนเบื่อได้ที่ ฉันก็เลยคิดจะพากล้องตัวนี้ไปเที่ยวทะเลสาบ Lake Murray เป็นที่แห่งแรกที่ฉันเลือกไป


เป็ดตัวผู้
ฉันไปถึงทะเลสาบในช่วงเวลาเย็น ประมาณ 4 โมงเศษแล้ว แดดวันนี้ยังคงสดใสดีเพราะที่นี่กำลังเข้าช่วงฤดูร้อน ที่มีกลางวันยาวกว่ากลางคืน จึงทำให้ทุกๆชีวิตได้ใช้เวลาตื่นมากกว่าเวลาหลับ อันที่จริงพวกนักถ่ายรูปนกมืออาชีพ เขาจะต้องมาซุ่มแอบดูนกกันตั้งแต่เช้ามืด แต่ฉันเป็นนักถ่ายรูปมือสมัครใหม่ที่ทำตามใจสะดวกเอาไว้ก่อน วันนี้กะไว้แล้วว่า เห็นอะไรผ่านมาก็จะลุยถ่ายอย่างเดียว Memory Card ของฉันจุภาพได้เป็นพันรูป แบตเตอรี่ก็มีเตรียมมาเพียบ

กล้องจับภาพได้พอดี มีหยดน้ำตกลงมาจากปากเป็ด

รูปนกนั้นถ่ายไม่ค่อยง่าย เพราะนกไม่ค่อยจะจับกิ่งไม้นิ่งๆให้ถ่ายรูปได้นานนัก ฉันจึงต้องอาศัยความไวและความคล่องตัว(ที่มีเหลืออยู่ไม่มาก)ไปพอสมควร ฉันถ่ายรูปนกได้แยะ แต่ภาพที่สวยได้ใจจริงๆก็มีไม่ค่อยมาก สัตว์ที่ถ่ายได้ไม่ยากนักเป็นพวกเป็ด หงส์ และพวกกระรอก กระต่ายป่า ที่มีให้เห็นวิ่งเล่นอยู่มากมาย กระรอกหลายตัวคุ้นและไม่กลัวคน โดยเฉพาะหากเห็นใครหิ้วถุงมา กระรอกก็จะวิ่งเข้ามารุมร้อมอยู่ใกล้ๆเท้า เพราะนึกว่าในถุงนั้นมีอาหาร กระต่ายป่าน่ารักมาก แต่กระต่ายขี้อายกว่ากระรอก เขาจะหลบเร็ว หลายครั้งกว่าจะยกกล้องขึ้นส่องเข้าที่ เขาก็โดดหายไปซะแล้ว แต่ฉันก็ยังโชคดีที่ได้เก็บภาพไว้ทัน



หงส์

ที่ทะเลสาบแห่งนี้กว้างมาก ฉันเคยมาเดินเล่นที่นี่หลายครั้งแต่ไม่เคยเดินได้ถึงจุดหมายปลายทางสักที ที่นี่ไม่มีใครเดินได้รอบทะเลสาบ เพราะเมื่อเดินถึงจุดสุดทาง ก็จะต้องเดินวกกลับทางเดิม คนแถวนี้มักมาเดินออกกำลังกาย หลายคนจะใช้จักรยาน ชีวิตธรรมชาติรอบๆบริเวณทะเลสาบนี้ค่อนข้างจะหลากหลาย ว่ากันว่ามีนกเป็นร้อยชนิดทั้งที่อยู่ประจำถิ่น และพวกไปๆมาๆตามฤดูกาล ฉันได้เห็นนกต่างชนิด ที่ส่วนใหญ่ฉันไม่ค่อยรู้จักชื่อ ทำให้ฉันรู้ว่า การเริ่มต้นจากศูนย์อย่างนี้มันไม่ง่ายเลย หากจะเอาจริงเอาจังทางด้านการดูนกและถ่ายภาพนกแล้วละก็ ฉันเห็นทีจะต้องซื้อคู่มือดูนกสักเล่มเสียแล้ว


กระรอกมาดเท่

ฉันจะยังคงกลับมาที่ทะเลสาบแห่งนี้อีกหลายครั้งเพื่อดูนกและถ่ายภาพนกให้ได้มากที่สุดเพื่อการรวบรวมของฉันเอง และนี่เป็นภาพชุดแรกที่ฉันอยากแบ่งปัน มาเที่ยวทะเลสาบด้วยกันนะคะ


กระรอกตัวเล็กนี้วิ่งลงไปจิบน้ำที่ริมทะเลสาบ ก่อนที่จะวิ่งขึ้นมาอาบคลุกทราย เขากลิ้งกลับตัวไปมาในทรายท่าทางจะขัดไคลให้สิ้นซาก เป็นภาพที่น่ารักมาก และกล้องจับภาพมาได้ในท่าสวยทีเดียว



กระรอกตัวกลม


กระต่ายป่า